ข่าวและประกาศเกี่ยวกับความยั่งยืน

Microsoft จะสร้างรีเจี้ยนศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ในฟินแลนด์โดยทำงานร่วมกับ Fortum Corporation เป็นพิเศษ ศูนย์ข้อมูลจะดำเนินงานด้วยพลังงานที่ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอน 100 เปอร์เซ็นต์ และแปลงความร้อนทิ้งเป็นการให้ความร้อนแก่ชุมชน ซึ่งจะให้บริการในเมืองเอสปูที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฟินแลนด์, เมืองเกานิไอเนนที่อยู่ใกล้เคียง และเทศบาลเมืองเคิร์กโคนุมมี ซึ่งจะถือเป็นการรีไซเคิลความร้อนทิ้งจากศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบัน

Microsoft ได้เปิดตัวรีเจี้ยนศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืนแห่งใหม่ล่าสุดในสวีเดน โดยให้บริการในพื้นที่เมืองแยฟเลอ แซนด์ไวเคน และสแตฟแฟนสตอร์ป รีเจี้ยนศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่นี้สอดคล้องกับการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของบริษัทอย่างใกล้ชิด ซึ่งขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลด้วยพลังงานที่ปราศจากคาร์บอน 100 เปอร์เซ็นต์ และสนับสนุนการดำเนินการที่ลดขยะให้เป็นศูนย์

เราร่วมแบ่งปันความคืบหน้าและการเรียนรู้จากความมุ่งมั่นของเราในการปล่อยคาร์บอนเป็นลบ ผลิตน้ำให้มากกว่าใช้ และลดขยะให้เป็นศูนย์ รวมถึงสร้าง Planetary Computer

ในปี 2030 Microsoft จะปล่อยคาร์บอนเป็นลบ และภายในปี 2050 Microsoft จะไม่มีการปล่อยคาร์บอนจากบริษัทออกสู่สิ่งแวดล้อมเลยไม่ว่าโดยตรงหรือโดยการใช้ไฟฟ้า นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 1975

Microsoft Cloud for Sustainability เป็นข้อเสนอใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ด้วยการรวมศูนย์ข้อมูลในรูปแบบทั่วไปเพื่อวัดค่า ลด และรายงานการปล่อยก๊าซคาร์บอน Microsoft Cloud for Sustainability ทําให้องค์กรต่างๆ มีมุมมองเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง ครอบคลุม และเป็นปัจจุบันมากขึ้นตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า

Microsoft ได้เปิดตัวศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืนแห่งใหม่นอกเมืองกู๊ดเยียร์ รัฐแอริโซนา ศูนย์ที่สร้างขึ้นโดยคํานึงถึงการดําเนินงานและการออกแบบที่ยั่งยืนนี้จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และมีการดําเนินงานที่ได้รับการรับรองว่าลดขยะให้เป็นศูนย์เพื่อให้บริการระบบคลาวด์แก่องค์กรต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา

Accenture, GitHub, Microsoft และ ThoughtWorks ได้เปิดตัว Green Software Foundation ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกําไรซึ่งจัดตั้งขึ้นพร้อมกับมูลนิธิ Linux Foundation เพื่อกำหนดให้ความยั่งยืนเป็นเรื่องสําคัญในวิศวกรรมซอฟต์แวร์ มูลนิธินี้จะเป็นศูนย์รวมระดับโลกที่ประกอบด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา มาตรฐานต่างๆ เครื่องมือ และแนวทางปฏิบัติที่สำคัญเพื่อขยายขอบเขตของซอฟต์แวร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยหวังว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์

Project 15 เริ่มต้นจากการเป็นโครงการที่อุทิศให้กับการส่งเสริมแนวคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนโดยใช้เทคโนโลยี IoT และระบบคลาวด์ โครงการนี้ได้รับความสนใจจากองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และปัจจุบันโครงการนี้ได้นำเสนอแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ออกแบบมาเพื่อช่วยชุมชนวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การอนุรักษ์ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในบล็อกนี้ Sarah Maston จะบอกเล่าว่าโครงการมีการพัฒนาอย่างไรเพื่อให้มาถึงจุดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ประสบการณ์ศูนย์ข้อมูลเสมือนนี้เปรียบเสมือนคำเชื้อเชิญที่หาได้ยากให้มองไปรอบๆ และดูว่าเราออกแบบ สร้าง และใช้งาน Microsoft Cloud อย่างไรโดยคำนึงถึงความยั่งยืน ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และนวัตกรรม

เส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนสามารถทําได้โดยการทํางานร่วมกันเท่านั้น แคมเปญ #BuildFor2030 ให้ความสำคัญกับผู้ให้บริการร่วมของ Microsoft ที่เป็นผู้นําด้านความยั่งยืนโดยใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยีระบบคลาวด์

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ Microsoft ที่จะปล่อยคาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 แคมปัส Redmond จะสร้างศูนย์ Thermal Energy Center ซึ่งประกอบไปด้วยอุโมงค์พิเศษซึ่งมีความลึกลงไปใต้ดินถึง 550 ฟุต ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อควบคุมพลังงานความร้อนของโลก ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนล่าสุดของสํานักงานในวอชิงตัน

มีบริษัทจำนวนมากขึ้นเริ่มลงทุนในโซลูชันเทคโนโลยีทางวิศวกรรมสำหรับการกำจัดคาร์บอน แต่กระบวนการนี้อาจมีราคาแพง เอกสารรายงานเป็นทางการของ Microsoft ที่เผยแพร่ในปี 2021 วิเคราะห์ข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นได้สำหรับโซลูชันอื่นๆ ในการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศตามธรรมชาติ เช่น การปลูกต้นไม้หรือการปลูกพืชหมุนเวียน

หนึ่งปีผ่านไปแล้วนับตั้งแต่เราได้ให้คำมั่นสัญญาใน"เป้าหมายอันยิ่งใหญ่"ของ Microsoft ในการปล่อยคาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 ตั้งแต่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไปจนถึงการขจัดคาร์บอนออกจากสิ่งแวดล้อม เรากําลังแบ่งปันความสําเร็จแรกของเรา สรุปสิ่งที่เราได้เรียนรู้ และพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีต่อๆ ไปในขณะที่เราทุ่มเทเพื่อทําให้ Microsoft ยั่งยืนยิ่งขึ้น

ตั้งแต่การตั้งเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนเป็นลบไปจนถึงความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผืนดินที่เราใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น Microsoft ใช้เวลาในปี 2020 ทั้งปีวางแผนเพื่อความยั่งยืนยิ่งขึ้น ในฐานะที่เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี เราหวังว่าจะนําโซลูชันดิจิทัลไปใช้ในการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ และการลงนามใน The Climate Pledge ถือเป็นก้าวล่าสุดในเส้นทางแห่งการใส่ใจต่อปัญหาสภาพภูมิอากาศของเรา

เรากําลังลงทุนในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเดนมาร์ก โดยมีแผนที่จะสร้างรีเจี้ยนศูนย์ข้อมูลของ Microsoft ที่ยั่งยืน ซึ่งจะถือเป็นก้าวถัดไปในความมุ่งมั่นของเราที่จะสนับสนุนการเติบโตและนวัตกรรมในเดนมาร์ก

Microsoft ร่วมมือกับ SSE Airtricity ในการนำทรัพยากรพลังงานสีเขียวมาสู่โรงเรียนหลายสิบแห่งในไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โครงการนี้รวมถึงแผงโซลาร์เซลล์ที่ขับเคลื่อนโดย Azure IoT และ Microsoft Azure และรวมถึงแคมเปญการศึกษาเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียน

World Cities Day 2020 จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความสำคัญในประเด็นปัญหาสาธารณะ โดย Microsoft ยกย่องผู้ให้บริการร่วมที่ขับเคลื่อนการดำเนินการด้านสภาพอากาศ รวมทั้งยืนยันความมุ่งมั่นของเราในการทำให้การปล่อยคาร์บอนเป็นลบ รวมไปถึงการผลิตน้ำให้มากกว่าที่ใช้และลดขยะให้เป็นศูนย์

เป้าหมายขยะเป็นศูนย์ของเราอยู่ในระยะที่สามของโครงการริเริ่มความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของ Microsoft ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ โดยมุ่งเน้นในเรื่องคาร์บอน น้ำ ระบบนิเวศ และขยะ เรากําลังกําหนดเป้าหมายที่ท้าทายสำหรับแต่ละเรื่อง และส่งเสริมลูกค้าของเราให้ทำอย่างเดียวกันด้วยเทคโนโลยีและความรู้ที่เรามี

เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูลจำนวนหนึ่งแถวเป็นเวลา 48 ชั่วโมงติดต่อกัน นับได้ว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่สามารถเริ่มต้นการประหยัดพลังงานสะอาดที่คาดการณ์มายาวนานซึ่งสร้างขึ้นจากองค์ประกอบที่มีอยู่มากที่สุดในจักรวาล

เป้าหมายที่ทะเยอทะยานของเราในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ ทําให้เราจําเป็นต้องสํารวจเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีแต่ละประเภท เรากำลังตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับเป้าหมายโดยรวมของเรา รวมถึงเหมาะสมกับตำแหน่งของศูนย์ข้อมูลต่างๆ และความต้องการสำหรับศูนย์ข้อมูลนั้นๆ โดยเฉพาะ

วันนี้ Samsung Electronics Co. และ Microsoft Corp. ได้ประกาศความร่วมมือระดับโลกที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบดิจิทัล

Land O'Lakes และ Microsoft ประกาศเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระยะเวลาหลายปีเพื่อบุกเบิกนวัตกรรมทางการเกษตร ยกระดับห่วงโซ่อุปทาน ขยายแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนสําหรับเกษตรกรและระบบอาหาร และแก้ไขปัญหาช่องว่างด้านบรอดแบนด์ในชนบท